อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดศีรษะไมเกรน แบบเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง หรือมีอาการปวดหลังบนบริเวณสะบักทั้ง 2 ข้างเป็นบริเวณกว้าง ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ชัดเจน บางรายอาจมีอาการปวดร้าวทั่วไปบริเวณใกล้เคียงร่วมด้วย อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณถึง “โรคออฟฟิศซินโดรม” ความรุนแรงมีได้ตั้งแต่ปวดเล็กน้อยเพียงรำคาญจนถึงปวดรุนแรงทรมานอย่างมาก

ต้นสายปลายเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรมเกิดจากพฤติกรรมการทำงานในลักษณะท่าทางที่ไม่เหมาะสมได้แก่

-การนั่งโต๊ะทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมง
-ไม่ได้ขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบถ
-นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบตลอดเวลา
-โต๊ะทำงานไม่เหมาะสมกับสรีระ
-พักผ่อนไม่เพียงพอที่เกิดจากความเครียดจากการทำงาน

พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล เกิดการหดเกร็งค้างท่าเดิม และขาดความยืดหยุ่นเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนโดยไม่ได้รับการแก้ไข กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะแข็งจนเป็นก้อน (Trigger Point) ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ ส่งผลให้มีอาการปวดเรื้อรัง

ปล่อยให้ปวดเรื้อรังจะเป็นไรไหม?

กล้ามเนื้อหลังทั้ง 2 ฝั่งทำหน้าที่ประคองให้กระดูกสันหลังอยู่ตรงกึ่งกลางลำตัวไม่ให้เอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง หากเมื่อใดก็ตามที่คุณมีอาการปวดเรื้อรัง นั้นเป็นสัญญาณว่ากล้ามเนื้อหลังทั้ง 2 ฝั่งทำงานไม่สมดุลกัน ทำให้กระดูกสันหลังถูกดึงไปทางกล้ามเนื้อที่หดเกร็งกว่า เป็นอาจสาเหตุทำให้กระดูกสันหลังคด หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น ข้อกระดูกสันหลังเคลื่อน กระดูกสันหลังเสื่อม หากปล่อยไว้นานโดยที่ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุอาจนำไปสู่ความพิการในอนาคตได้

• สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการรักษาออฟฟิศซินโดรม
• รักษาออฟฟิศซินโดรม ด้วยทีมรักษาความพิการ

แค่ปรับ = ลดปวดออฟฟิศซินโดรม

ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้นหมายถึงคุณไม่ได้ดูแล และปล่อยให้ตัวเองทนกับอาการปวดเรื้อรังจนนำไปสู้โรคออฟฟิศซินโดรม แต่การรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมที่ดีและเหมาะสมคือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดนั้นก็คือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่นการทำงาน จัดสภาพแวดล้อมของโต๊ะทำงานให้เหมาะสม ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น เพื่อลดอาการบาดเจ็บจากการทำงาน และเพิ่มคุณภาพชีวิต รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างถาวร

โรคออฟฟิศซินโดรม เมื่อมีอาการปวดเรื้อรังในบางครั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมยังไม่เพียงพอ การมองหาทางเลือกในการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำ โปรแกรมการรักษาออฟฟิศซินโดรมแบบเข้มข้น จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ระยะเวลาเร็วขึ้น ด้วยการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล จากทีมรักษาความพิการที่มีความเชี่ยวชาญ มาร่วมวางแผนให้กับผู้ป่วยโรคออฟฟิศซินโดรมเพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการการรักษาที่รวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น